Cover ImageForeground Image

ออกแบบโรงงาน โกดังสำเร็จรูปอย่างไรให้เหมาะกับโรงงานผลิตอาหาร

HeartPNG
doteyedotlike
copy

" การออกแบบโรงงาน โกดังสำเร็จรูปให้ตอบโจทย์กับกลุ่มโรงงานผลิตอาหาร แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหาโรงงานขนาดเล็ก ลำลูกกา โรงงานขนาดเล็ก ปทุมธานี "

  สำหรับผู้ที่ทำธุรกิจด้านโรงงานผลิตอาหารการให้ความสำคัญด้านงานออกแบบโรงงานสำเร็จรูปและโกดังสำเร็จรูปถือเป็นเรื่องที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด ด้วยพื้นฐานของสินค้าประเภทนี้ต้องเน้นเรื่องความสะอาด ถูกต้องตามหลักอนามัย มีการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนได้รับอนุญาตผลิต เช่น มาตรฐาน GMP ตรวจโดยสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.) มาตรฐาน ISO 9000 มาตรฐาน HACCP เป็นต้น อีกทั้งการมีโรงงานและโกดังที่ได้มาตรฐานยังส่งผลเชิงบวกต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์อีกด้วย การรู้เทคนิคต่าง ๆ ด้านงานออกแบบโรงงาน โกดัง จะช่วยสร้างผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาวให้กับธุรกิจอย่างแน่นอน

"เทคนิคออกแบบโรงงาน โกดังสำเร็จรูป ให้เหมาะกับ
โรงงานผลิตอาหาร"
1. ประเมินตามลำดับขั้นตอนการผลิต

โดยพื้นฐานของโรงงานผลิตอาหารส่วนใหญ่วัตถุดิบกลุ่มของสดต้องอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นกระบวนการผลิตก่อนจะเสร็จสิ้นกลายเป็นสินค้าเตรียมพร้อมจำหน่าย การออกแบบโรงงานสำเร็จรูปจึงควรเน้นพื้นที่ส่วนหน้า หรือส่วนที่ต้องใช้นำเข้าวัตถุดิบให้เป็นพื้นที่เปิดโล่ง ลดกลิ่น ความสกปรกต่าง ๆ ทำจุดกำจัดของเสีย ท่อน้ำทิ้ง ให้อยู่ใกล้เคียงบริเวณดังกล่าว จะช่วยสร้างสุขอนามัยที่ดีให้กับสินค้าทุกประเภท

2. โกดังสำเร็จรูปควรแบ่งโซนจัดเก็บชัดเจน

เมื่อธุรกิจด้านโรงงานผลิตอาหารมักมีวัตถุดิบทั้งของสด ของแห้ง ผสมรวมกันอยู่ การทำโกดังสำเร็จรูปจึงควรแบ่งออกเป็นโซนเพื่อจัดเก็บวัตถุดิบเหล่านั้นให้ชัดเจน เช่น แบ่ง 50% ของพื้นที่เป็นฝั่งเก็บของแห้งทั่วไป และเก็บของสด ของที่ต้องได้รับความเย็น เทคนิคนี้จะช่วยยืดอายุวัตถุดิบให้ใช้งานได้ตามแผนที่วางเอาไว้ ลดต้นทุนและการเกิด Waste Cost ได้ดีมากทีเดียว

3. มีระบบจัดการของเสียถูกสุขลักษณะ

ไม่ว่าจะเป็นโรงงานขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ก็ตาม เมื่อธุรกิจของคุณคืออาหารการทำระบบจัดการของเสียสำหรับโรงงานและโกดังให้ถูกสุขลักษณะจึงเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเสมอ เช่น มีพื้นที่สำหรับทิ้งของสดพร้อมการป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำระบบท่อน้ำทิ้งโดยต้องมีวิธีบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงสู่ธรรมชาติ มีพื้นที่ถนนให้รถขยะสามารถเข้าไปจัดเก็บได้ง่าย เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้การออกแบบโรงงานผลิตอาหารสมบูรณ์แบบมากขึ้น

4. ยืดหยุ่นต่อการใช้งาน

การออกแบบโกดัง หรือโรงงานสำเร็จรูปหรือที่ดีต้องมีความยืดหยุ่นสำหรับใช้งานสูง อธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ สามารถปรับเพิ่มหรือลดขีดความสามารถด้านกำลังการผลิตในอนาคตโดยไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อภาพรวม เช่น มีพื้นที่เผื่อสำหรับการตั้งวางเครื่องจักรตัวใหม่ แต่ในขณะที่ยังไม่ได้ซื้อเครื่องจักรเข้ามาพื้นที่เหล่านั้นยังคงถูกใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม เป็นต้น

5. อย่าลืมประเมินเรื่องความปลอดภัย

เรื่องสุดท้ายในการออกแบบโรงงาน หรือโกดังสำเร็จรูป ต้องประเมินในด้านความปลอดภัยเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เช่น มีจุดทางหนีไฟของพนักงาน สร้างจุดรวมพลเพื่อเช็กจำนวนคน มีจุดติดตั้งถังดับเพลิง หรืออุปกรณ์ห้ามไฟเข้าถึงง่าย มีจุดติดสัญญาณเตือน หรือแม้แต่การออกแบบให้รถพยาบาลเข้าถึงได้ง่ายก็ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงอยู่เสมอ

6. การเลือกใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน

แม้เป็นเรื่องการออกแบบโรงงาน โกดัง แต่วัสดุที่ใช้ก็อย่ามองข้ามเด็ดขาด เพื่อให้มั่นใจว่าหลังการสร้างเสร็จแล้วจะได้อาคารที่มีมาตรฐาน แข็งแรง เหมาะกับการผลิต ซึ่งตัวอย่างวัสดุที่แนะนำสำหรับการทำโรงงาน โกดัง เช่น หลังคาเมทัลชีท การติดตั้งฉนวน PU Foam ผนัง Speed Wall ทนความร้อนสูงและสามารถเก็บเสียงได้ พื้นคอนกรีตรับน้ำหนักได้ไม่ต่ำกว่า 500 กิโลกรัม / ตร.ม. เป็นต้น

    ทั้งหมดนี้คือแนวคิดดี ๆ ในการออกแบบโรงงาน โกดังสำเร็จรูปให้ตอบโจทย์กับกลุ่มโรงงานผลิตอาหาร แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหาโรงงานขนาดเล็ก ลำลูกกา โรงงานขนาดเล็ก ปทุมธานี ไปจนถึงโกดัง ลำลูกกา ที่ Biggerland ก็มีทางเลือกชั้นยอดมาบอกต่อ อาคารทุกหลังผ่านการออกแบบให้ตอบโจทย์กับทุกประเภทอุตสาหกรรมรวมถึงกลุ่มโรงงานผลิตอาหาร ใช้วัสดุคุณภาพสูง เช่น ผนัง Speed Wall หลังคาเมทัลชีทพร้อมฉนวน PU Foam พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมหรือจองการเข้าชมโครงการจริงได้ทันที

copy

บทความอื่นๆ